มรสุมสร้างน้ำท่วมเป็นพิษ

Great Barrier Reef    <a href=

อุปสรรคใหญ่
รีฟ


ในช่วงต้นของเดือนธันวาคม 2010 สภาพอากาศที่รุนแรงซึ่งเกิดจากพายุหมุนเขตร้อนทำให้เกิดน้ำท่วมบางพื้นที่ในบางส่วนของรัฐควีนส์แลนด์ทางตะวันออกเฉียงเหนือของออสเตรเลีย น้ำท่วมบังคับให้ต้องอพยพประชาชนราว 1,000 คน แต่เมื่อถึงสิ้นเดือนสถานการณ์ได้เปลี่ยนไปอย่างมากโดยมีผู้คนมากกว่า 200,000 คนที่คิดว่าได้รับผลกระทบ

ในวันคริสต์มาสอีฟสภาพมรสุมพัดถล่มพื้นที่ทางตอนใต้และตอนกลางของรัฐทำให้เกิดน้ำท่วมรุนแรงและอพยพออกจากพื้นที่ขนาดเท่ากับฝรั่งเศสและเยอรมนีรวมกัน คิดว่ามากกว่า 20 เมืองได้รับผลกระทบอย่างรุนแรงโดยบางเมืองอยู่ใต้น้ำมากถึง 80% นอกจากนี้ยังมีการปิดถนนเกือบ 300 สายและทั้งอุตสาหกรรมเหมืองแร่และอาหารของรัฐควีนส์แลนด์ก็ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมเช่นกัน

น้ำท่วมถนน

น้ำท่วมถนน
เป็นที่คิดกันว่าช่วงเวลาที่เลวร้ายที่สุดได้ผ่านไปก่อนวันส่งท้ายปีเก่า แต่สำหรับพวกเขาก็มีการกล่าวกันว่าดูเหมือนงูและจระเข้จำนวนมากในบางพื้นที่ สิ่งมีชีวิตชนิดอื่น ๆ ยังไม่ออกมาดีนักเนื่องจากน้ำที่ปนเปื้อนกลับสู่มหาสมุทรจากน้ำท่วมนั้นมีผลกระทบอย่างรุนแรงต่อสัตว์ทะเลของออสเตรเลียในอนาคต

จากรายงานของ WWF พบว่าสารพิษจากฟาร์มที่ถูกน้ำท่วมนั้นส่งผลกระทบร้ายแรงต่อทั้งคุณภาพน้ำและการอยู่รอดของสิ่งมีชีวิตที่หายากและมีเอกลักษณ์ที่สุดในออสเตรเลียเช่นพะยูน พวกเขายังกังวลอย่างมากเกี่ยวกับผลกระทบที่คุณภาพน้ำที่ลดลงเช่นนี้จะมีต่อปะการังที่ประกอบเป็นแนวปะการัง Great Barrier Reef และสัตว์ต่างๆที่อาศัยอยู่

ปะการังมหาสมุทร

ปะการังมหาสมุทร
การประมาณการเบื้องต้นทำให้ต้นทุนความเสียหายอยู่ที่ประมาณ 650 ล้านปอนด์ แต่ตัวเลขนี้เพิ่มขึ้นห้าเท่าตั้งแต่นั้นมา แม้ว่าจะทำได้เพียงเล็กน้อยเกี่ยวกับสภาพอากาศ แต่ WWF แนะนำว่าวิธีแก้ปัญหาหนึ่งคือการปลูกต้นไม้เพิ่มขึ้นและพืชที่อุดมสมบูรณ์ในพื้นที่ที่มีแนวโน้มที่จะเกิดน้ำท่วม เมื่อพืชดูดซับน้ำก็หมายความว่าพื้นที่เหล่านี้จะสามารถกักเก็บน้ำท่วมไว้ได้บางส่วนดังนั้นน้ำที่มีมลพิษน้อยกว่าก็จะกลับมาอยู่ในแม่น้ำและในมหาสมุทรของควีนส์แลนด์

บทความที่น่าสนใจ